อยากสร้างแบรนด์อาหารเสริม มีสิ่งที่คุณต้องรู้ก่อนตัดสินใจจ้าง บริษัท OEM
กระแสการดูแลสุขภาพที่มาแรงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ธุรกิจอาหารเสริมกลายเป็นหนึ่งในตลาดที่น่าสนใจและเติบโตอย่างรวดเร็ว หลายคนจึงใฝ่ฝันอยากเป็นเจ้าของแบรนด์อาหารเสริมของตัวเอง แต่การจะเริ่มต้นจากศูนย์นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องกระบวนการผลิตที่ซับซ้อนและต้องใช้เงินลงทุนสูง การจ้างโรงงานผลิตหรือ บริษัท OEM (Original Equipment Manufacturer) จึงกลายเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ประกอบการยุคใหม่ แต่ก่อนที่คุณจะตัดสินใจเซ็นสัญญาจ้างผลิต คุณควรทราบสิ่งสำคัญที่คุณควรรู้ก่อนตัดสินใจเลือกโรงงานหรือบริษัทที่จะผลิตอาหารเสริมให้กับคุณ ซึ่งบทความนี้จะพาไปเจาะลึกทุกแง่มุมที่ควรรู้ เพื่อเตรียมความพร้อมและลดความเสี่ยงในการสร้างแบรนด์ให้ประสบความสำเร็จอย่างละเอียด
ทำไม? การเลือกบริษัท OEM คือก้าวสำคัญสู่การเป็นเจ้าของแบรนด์
- หาไอเดียและกำหนดกลุ่มเป้าหมาย : คุณอยากทำอาหารเสริมเพื่อแก้ปัญหาอะไร? เช่น บำรุงผิว, ควบคุมน้ำหนัก, เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน หรือบำรุงสมอง กลุ่มเป้าหมายของคุณคือใคร? (เพศ, อายุ, ไลฟ์สไตล์) การกำหนดสิ่งเหล่านี้ให้ชัดเจน จะเป็นเข็มทิศในการพัฒนาสูตรและวางแผนการตลาด
- สร้างจุดขายที่แตกต่าง (Unique Selling Proposition – USP) : ตลาดอาหารเสริมมีการแข่งขันสูง แบรนด์ของคุณต้องมีจุดเด่นที่แตกต่างจากคู่แข่ง อาจจะเป็นการใช้สารสกัดที่ไม่เหมือนใคร, สูตรที่เห็นผลลัพธ์ชัดเจนหรือนวัตกรรมการผลิตที่เหนือกว่า
- ศึกษาตลาดและคู่แข่ง : วิเคราะห์ว่าในตลาดมีสินค้าประเภทใดบ้างที่คล้ายกับไอเดียของคุณ คู่แข่งมีจุดแข็ง-จุดอ่อนอย่างไร ราคาขายอยู่ที่เท่าไหร่ เพื่อนำมาวางกลยุทธ์ให้กับแบรนด์ของตัวเอง
- ตั้งงบประมาณเบื้องต้น : การสร้างแบรนด์อาหารเสริมมีค่าใช้จ่ายหลายส่วนที่ต้องคำนึงถึง ได้แก่
- ค่าพัฒนาและวิจัยสูตร : หากคุณต้องการพัฒนาสูตรเฉพาะของตัวเอง จะมีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ แต่หลายโรงงานก็มีสูตรมาตรฐานให้เลือกใช้ ซึ่งจะช่วยประหยัดต้นทุนได้
- ค่าผลิตสินค้า (ขั้นต่ำ) : โรงงานหรือบริษัท OEM ส่วนใหญ่จะกำหนดปริมาณการผลิตขั้นต่ำ (Minimum Order Quantity – MOQ) ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อเงินลงทุนก้อนแรก โดยทั่วไปอาจเริ่มต้นที่หลักหมื่นปลายๆ ถึงหลักแสนบาท ขึ้นอยู่กับประเภทของผลิตภัณฑ์และจำนวนที่สั่งผลิต
- ค่าขอขึ้นทะเบียน อย. : ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมทุกชนิดต้องได้รับการอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึ่งมีค่าธรรมเนียมในการยื่นขอ
- ค่าออกแบบบรรจุภัณฑ์และโลโก้ : การสร้างภาพลักษณ์ให้แบรนด์น่าจดจำเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม
- ค่าการตลาดและส่งเสริมการขาย : งบประมาณสำหรับโฆษณา, จ้างอินฟลูเอนเซอร์ หรือจัดโปรโมชั่น เพื่อให้สินค้าเป็นที่รู้จัก
เลือกบริษัท OEM อย่างไรให้ใช่และปลอดภัย
- มาตรฐานการผลิตที่น่าเชื่อถือ : สิ่งที่สำคัญที่สุดคือโรงงานต้องผ่านมาตรฐานสากล โดยมาตรฐานหลักที่โรงงานผลิตอาหารเสริมในประเทศไทยต้องมีคือ GMP (Good Manufacturing Practice) ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์วิธีการผลิตที่ดี เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์มีคุณภาพและปลอดภัย นอกจากนี้ หากโรงงานหรือบริษัท OEMมีมาตรฐานอื่นๆ เช่น HACCP (Hazard Analysis and Critical Control Point) หรือ ISO (International
Organization for Standardization) ก็จะช่วยเพิ่มความมั่นใจในกระบวนการควบคุมคุณภาพมากยิ่งขึ้น - มีที่ตั้งโรงงานชัดเจนและตรวจสอบได้ : ควรเลือกโรงงานหรือบริษัทที่มีสถานประกอบการเป็นหลักแหล่งชัดเจน และควรเข้าไปเยี่ยมชมโรงงานด้วยตนเอง เพื่อดูสภาพแวดล้อม, ความสะอาดของไลน์การผลิตและพูดคุยกับทีมงาน เพื่อประเมินความเป็นมืออาชีพ
- ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ : ลองพิจารณาจากผลงานที่ผ่านมาของโรงงานหรือบริษัท OEM ว่าเคยผลิตอาหารเสริมในกลุ่มที่คุณสนใจหรือไม่ มีความเชี่ยวชาญในสารสกัดหรือนวัตกรรมการผลิตแบบใดเป็นพิเศษ
- การบริการแบบครบวงจร (One-Stop Service) : โรงงานหรือบริษัทที่ดีควรมีบริการที่ครอบคลุมตั้งแต่การให้คำปรึกษา, พัฒนาสูตร, ออกแบบบรรจุภัณฑ์, ดำเนินการขอ อย. ไปจนถึงการผลิตและจัดส่ง ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกและลดความยุ่งยากให้กับเจ้าของแบรนด์มือใหม่ได้อย่างมาก
- ความโปร่งใสและให้คำปรึกษาอย่างตรงไปตรงมา : โรงงานหรือบริษัท OEM ควรให้ข้อมูลเกี่ยวกับส่วนประกอบ, ที่มาของวัตถุดิบ, ขั้นตอนการผลิตและเงื่อนไขต่างๆ อย่างชัดเจน รวมถึงสามารถให้คำปรึกษาที่เป็นประโยชน์ในการพัฒนาสินค้าได้
- อ่านรีวิวและตรวจสอบประวัติ : ค้นหาข้อมูลและรีวิวจากลูกค้าที่เคยใช้บริการ เพื่อประกอบการตัดสินใจ และควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าโรงงานไม่เคยมีประวัติเสียหรือถูกร้องเรียนเรื่องคุณภาพการผลิต
เจาะลึกกระบวนการทำงานกับบริษัท OEM
- พูดคุยและสรุปแนวคิด (Concept) : แจ้งความต้องการของคุณ ทั้งประเภทอาหารเสริม, กลุ่มเป้าหมาย, จุดขายและงบประมาณ ให้กับทางโรงงาน
- พัฒนาและเลือกสูตร : คุณสามารถเลือกได้ 2 แนวทางหลัก
- ใช้สูตรมาตรฐานของโรงงานหรือบริษัท OEM : เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องการประหยัดเวลาและลดต้นทุนในการพัฒนาสูตร
- พัฒนาสูตรใหม่ : หากคุณมีไอเดียหรือต้องการสร้างความแตกต่าง สามารถให้ทีมวิจัยและพัฒนา (R&D) ของโรงงานหรือบริษัทที่ช่วยคิดค้นสูตรเฉพาะสำหรับแบรนด์ของคุณได้
- เสนอราคาและทำสัญญา : โรงงานจะประเมินราคาตามสูตรและจำนวนการผลิตขั้นต่ำ เมื่อตกลงกันได้แล้วจะมีการทำสัญญาว่าจ้างผลิต ซึ่งควรอ่านรายละเอียดในสัญญาอย่างถี่ถ้วน โดยเฉพาะเรื่องการรักษาความลับทางการค้า, กรรมสิทธิ์ในสูตรและเงื่อนไขการรับประกันคุณภาพ
- ออกแบบบรรจุภัณฑ์และฉลาก : ทำงานร่วมกับทีมออกแบบของโรงงานหรือบริษัท OEM (หรือจ้างนักออกแบบภายนอก) เพื่อสร้างสรรค์โลโก้และบรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม ดึงดูด และเป็นไปตามข้อกำหนดของ อย.
- ขึ้นทะเบียน อย. : โรงงานส่วนใหญ่จะอำนวยความสะดวกในการยื่นขอเลขสารบบอาหาร (เลข อย. 13 หลัก) ให้กับผลิตภัณฑ์ของคุณ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นตามกฎหมาย ข้อสำคัญคือ อาหารเสริมแต่ละแบรนด์ แต่ละสูตร จะต้องมีเลข อย. ของตัวเอง ไม่สามารถใช้เลข อย. ร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่นของโรงงานได้
- ผลิตสินค้าตัวอย่าง : ก่อนการผลิตจริง โรงงานหรือบริษัท OEM จะผลิตสินค้าตัวอย่างเพื่อให้คุณได้ทดลองและอนุมัติ ทั้งในเรื่องของรสชาติ, กลิ่น, สี และลักษณะทางกายภาพ
- เริ่มกระบวนการผลิต : หลังจากอนุมัติตัวอย่างแล้ว โรงงานจะเริ่มทำการผลิตสินค้าตามจำนวนที่สั่ง
- ควบคุมคุณภาพและจัดส่ง : สินค้าที่ผลิตเสร็จแล้วจะผ่านการตรวจสอบคุณภาพ (QC) ก่อนจะทำการบรรจุและจัดส่งให้กับคุณ
กฎหมายและข้อบังคับที่ต้องรู้ก่อนการจ้างบริษัท OEM
การทำธุรกิจอาหารเสริมนั้นเกี่ยวข้องโดยตรงกับสุขภาพของผู้บริโภค จึงมีกฎหมายควบคุมอย่างเข้มงวดโดยเฉพาะเรื่องการโฆษณา ซึ่งตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 ห้ามโฆษณาคุณประโยชน์หรือสรรพคุณของอาหารอันเป็นเท็จหรือหลอกลวงให้เกิดความหลงเชื่อโดยไม่สมควร และการโฆษณาจะต้องยื่นขออนุญาตจาก อย. ก่อนเผยแพร่ทุกครั้ง โดยไม่สามารถอวดอ้างสรรพคุณในการรักษาโรคได้
การเลือกจ้างหรือบริษัท OEMที่มีความเป็นมืออาชีพและเข้าใจในข้อกฎหมายเหล่านี้ จะช่วยให้แบรนด์ของคุณเริ่มต้นได้อย่างถูกต้อง และลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาทางกฎหมายในอนาคตการสร้างแบรนด์อาหารเสริมให้ประสบความสำเร็จต้องอาศัยความเข้าใจในหลายมิติ ตั้งแต่การวางแผนธุรกิจที่เฉียบคม การเลือกคู่ค้าผู้ผลิตที่ไว้วางใจได้ ไปจนถึงการทำการตลาดที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย การเตรียมตัวให้พร้อมและศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้านก่อนตัดสินใจ คือกุญแจสำคัญที่จะนำพาแบรนด์ของคุณให้เติบโตอย่างมั่นคงในตลาดที่มีการแข่งขันสูงนี้
นอกจากนั้น เจ้าของแบรนด์ยังต้องเข้าใจสินค้าและกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจน ศึกษามาตรฐานการผลิตและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เลือกโรงงานหรือบริษัท OEMที่มีบริการครบวงจรพร้อมทีม R&D พัฒนาสูตรเฉพาะ ตลอดจนตรวจสอบเงื่อนไขสัญญาให้รัดกุม ทั้งในด้านความลับสูตรและสิทธิ์การเป็นเจ้าของแบรนด์ ที่สำคัญคือต้องประเมินต้นทุนและวางแผนการลงทุนอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจเริ่มผลิตเพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในตลาดอาหารเสริมที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
BEYOND LABORATORY บริษัท OEM รับผลิตอาหารเสริมต่างๆ ที่ได้มาตรฐานอย่างครบวงจร โดยเราพร้อมดูแลทุกขั้นตอนของการสร้างแบรนด์ของคุณ ด้วยมาตรฐานการผลิตระดับสากล ทั้ง GMP และ ISO พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญด้าน R&D ที่ช่วยพัฒนาสูตรอาหารเสริมให้เหมาะกับความต้องการของตลาด รวมถึงรางวัล WELLNESS CNB AWARD 2024 ซึ่งแสดงถึงการขยายตัวของธุรกิจ OEM ด้านอาหารเสริมทั่วสุขภาพ รวมถึงผลิตภัณฑ์ประเภทดีท็อกซ์ด้วย เราให้บริการผลิตอาหารเสริมหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ อาหารเสริมผิวขาว หรือสูตรเฉพาะอื่นๆ ผ่านกระบวนการผลิตที่ทันสมัย ปลอดภัยและได้มาตรฐาน
สนใจปรึกษา โรงงานผลิตอาหารเสริม บริษัท OEM
โทร : 063-247-8997
Line : https://line.me/ti/p/~@BeyondLab
Facebook : https://www.facebook.com/BeyondLab1/