เปรียบเทียบการทำแบรนด์อาหารเสริมแบบ OEM กับ Private Label ต่างกันอย่างไร?

เปรียบเทียบการทำแบรนด์อาหารเสริมแบบ OEM กับ Private Label

ทำแบรนด์อาหารเสริม ควรทำแบบ OEM หรือ Private Label ดี?

ในโลกธุรกิจอาหารเสริมที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ผู้ประกอบการหน้าใหม่และผู้ที่ต้องการขยายสายผลิตภัณฑ์มักจะต้องเผชิญกับการตัดสินใจที่สำคัญอย่างหนึ่ง นั่นคือการเลือกว่าจะ ทำแบรนด์อาหารเสริม ของตนเองด้วยวิธีใด ระหว่าง OEM (Original Equipment Manufacturer) หรือแบบ Private Label ซึ่งแม้ทั้งสองวิธีจะดูคล้ายคลึงกัน แต่ในรายละเอียดแล้วมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งส่งผลต่อต้นทุน เวลา การควบคุมคุณภาพและทิศทางธุรกิจในระยะยาว ซึ่งบทความนี้จะพาไปวิเคราะห์ความแตกต่างระหว่างสองแนวทางนี้อย่างละเอียด เพื่อให้ผู้สนใจสามารถตัดสินใจได้เหมาะสมกับเป้าหมายธุรกิจของตน

 

ความแตกต่างทำแบรนด์อาหารเสริม แบบ OEM กับ Private Label

1. OEM (Original Equipment Manufacturer) :

คือการที่ผู้ประกอบการจ้างโรงงานผู้ผลิตที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาและผลิตสินค้าให้ตามสูตร, ส่วนผสม, รูปแบบ แม้กระทั่งบรรจุภัณฑ์ที่ตนเองต้องการอย่างเฉพาะเจาะจงหรือตามสูตรที่โรงงานมีให้และสามารถปรับแต่งได้ เหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่มีวิสัยทัศน์ชัดเจน ต้องการสร้างผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร, มีความเข้าใจในตลาดและกลุ่มเป้าหมายอย่างลึกซึ้ง รวมถึงมีงบประมาณสำหรับการลงทุนเริ่มต้นที่สูงขึ้น

ข้อดีของการทำแบรนด์อาหารเสริมแบบOEM

  • ความยืดหยุ่นสูงในการปรับแต่งผลิตภัณฑ์ : คุณมีอิสระอย่างเต็มที่ในการคิดค้นสูตรใหม่, เลือกส่วนผสมที่ไม่ซ้ำใคร, กำหนดปริมาณสารออกฤทธิ์, และออกแบบผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับวิสัยทัศน์ของแบรนด์มากที่สุด นี่คือจุดเด่นที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ของคุณโดดเด่นและแตกต่างจากคู่แข่ง
  • สร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัว (Unique Selling Proposition – USP) : ด้วยการปรับแต่งผลิตภัณฑ์ได้ตามต้องการ คุณสามารถสร้างจุดแข็งที่แตกต่างและเป็นเอกลักษณ์ให้กับแบรนด์ของคุณ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการแข่งขันในตลาดที่มีผู้เล่นจำนวนมาก
  • การควบคุมคุณภาพที่ละเอียดอ่อน : คุณสามารถมีส่วนร่วมในการคัดเลือกวัตถุดิบและกระบวนการผลิต ซึ่งช่วยให้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ของคุณมีคุณภาพตามมาตรฐานที่คุณกำหนด
  • โอกาสในการสร้างนวัตกรรม : หากคุณมีไอเดียเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ไม่เคยมีในตลาด การทำ OEM คือหนทางที่จะทำให้ไอเดียเหล่านั้นเป็นจริง
  • ไม่ต้องลงทุนโรงงานผลิตเอง : คุณสามารถเข้าสู่ตลาดได้โดยไม่ต้องมีภาระในการลงทุนกับเครื่องจักร, อาคารและบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการผลิตโดยตรง

ข้อเสียของการทำแบรนด์อาหารเสริมแบบOEM

  • ต้นทุนเริ่มต้นสูงกว่า : เนื่องจากเป็นการผลิตที่ต้องออกแบบและพัฒนาใหม่ มักจะมีค่าใช้จ่ายในการวิจัยและพัฒนา (R&D), ค่าขึ้นทะเบียนสูตร, และค่าผลิตขั้นต่ำ (MOQ) ที่สูงกว่า Private Label
  • ใช้เวลานานกว่าในการเข้าสู่ตลาด : กระบวนการพัฒนาสูตร, ทดลอง, ขออนุญาตและการผลิต มักจะใช้เวลานานกว่าการเลือกผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป
  • ความเสี่ยงด้านการลงทุนเริ่มต้น : หากผลิตภัณฑ์ไม่ประสบความสำเร็จตามที่คาดไว้ การลงทุนเริ่มต้นที่สูงอาจกลายเป็นความเสี่ยง
  • ต้องมีความรู้ความเข้าใจในผลิตภัณฑ์พอสมควร : เพื่อให้สามารถสื่อสารความต้องการกับโรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถประเมินผลลัพธ์ได้

2. Private Label การติดแบรนด์บนผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป :

การทำแบรนด์อาหารเสริมแบบ Private Label คือการที่ผู้ประกอบการเลือกผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่มีสูตรมาตรฐานอยู่แล้วจากโรงงานผู้ผลิต จากนั้นนำมาติดฉลากหรือบรรจุภัณฑ์ภายใต้ชื่อแบรนด์ของตนเอง โดยมักจะมีตัวเลือกให้เลือกสูตรสำเร็จรูปหลากหลายที่โรงงานมีอยู่แล้ว เหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการเข้าสู่ตลาดอย่างรวดเร็ว, มีงบประมาณจำกัด, ต้องการทดลองตลาดก่อนลงทุนจำนวนมาก หรือต้องการขยายไลน์ผลิตภัณฑ์โดยไม่ต้องพัฒนาใหม่ทั้งหมด

ข้อดีของการทำแบรนด์อาหารเสริมแบบ Private Label

  • ต้นทุนเริ่มต้นต่ำกว่า : เนื่องจากไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายในการวิจัยและพัฒนาสูตรใหม่ โรงงานส่วนใหญ่มีสูตรสำเร็จรูปที่ได้รับการรับรองและผลิตในปริมาณมากอยู่แล้วทำให้ต้นทุนต่อหน่วยลดลง
  • เข้าสู่ตลาดได้รวดเร็วกว่า : กระบวนการสั้นกว่ามาก เพียงแค่เลือกสูตร, ออกแบบฉลาก, และสั่งผลิต ทำให้สามารถนำสินค้าออกสู่ตลาดได้ภายในระยะเวลาอันสั้น
  • ความเสี่ยงต่ำกว่า : ด้วยต้นทุนเริ่มต้นที่ต่ำกว่าและความเร็วในการเข้าสู่ตลาด หากผลิตภัณฑ์ไม่เป็นไปตามคาด ก็สามารถปรับเปลี่ยนหรือทดลองผลิตภัณฑ์อื่นได้ง่ายกว่า
  • เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น : เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการทดลองตลาดอาหารเสริมโดยไม่ต้องลงทุนมหาศาล และยังไม่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาสูตรโดยตรง
  • มีตัวเลือกผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายจากโรงงาน : โรงงานมักจะมีแค็ตตาล็อกผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปให้เลือกมากมาย ทำให้คุณสามารถขยายไลน์สินค้าได้ง่าย

ข้อเสียของการทำแบรนด์อาหารเสริมแบบPrivate Label

  • ขาดความแตกต่างจากคู่แข่ง : เนื่องจากเป็นสูตรมาตรฐานที่โรงงานมีให้ ทำให้มีโอกาสสูงที่ผลิตภัณฑ์ของคุณจะคล้ายกับคู่แข่งรายอื่นที่ใช้บริการ Private Label จากโรงงานเดียวกันหรือโรงงานอื่นที่มีสูตรคล้ายกัน
  • การควบคุมคุณภาพอาจไม่ละเอียดเท่า OEM : แม้โรงงานจะรับรองคุณภาพ แต่คุณอาจไม่มีส่วนร่วมในการเลือกวัตถุดิบได้เท่ากับการทำ OEM
  • โอกาสในการสร้างนวัตกรรมจำกัด : คุณถูกจำกัดด้วยสูตรที่มีอยู่ ทำให้ยากที่จะสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เคยมีมาก่อน
  • ความจงรักภักดีต่อแบรนด์อาจสร้างยากกว่า : หากผลิตภัณฑ์ไม่มีจุดเด่นที่แตกต่างชัดเจน ผู้บริโภคอาจตัดสินใจจากราคามากกว่าคุณค่าของแบรนด์

 

ตารางเปรียบเทียบ OEM vs. Private Label

 

คุณสมบัติOEM (Original Equipment Manufacturer)Private Label
การปรับแต่งผลิตภัณฑ์สูงมาก (พัฒนาสูตรใหม่, เลือกส่วนผสม, ออกแบบเฉพาะ)ต่ำ (เลือกจากสูตรสำเร็จรูปที่มีอยู่)
ต้นทุนเริ่มต้นสูงกว่า (ค่า R&D, ค่าขึ้นทะเบียน, MOQ สูง)ต่ำกว่า (ไม่มีค่า R&D, MOQ ต่ำกว่า)
ระยะเวลาสู่ตลาดนานกว่า (พัฒนา, ทดสอบ, ขออนุญาต)รวดเร็วกว่า (เลือกสูตร, ออกแบบฉลาก, ผลิต)
เอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์สูงมาก (สร้าง USP ได้ง่าย)ต่ำ (มีโอกาสซ้ำกับคู่แข่งสูง)
การควบคุมคุณภาพสูง (มีส่วนร่วมในการคัดเลือกและกระบวนการ)ปานกลาง (อิงตามมาตรฐานของโรงงาน)
ความเสี่ยงสูงกว่า (ลงทุนเริ่มต้นสูง)ต่ำกว่า (เข้าตลาดได้เร็ว, ต้นทุนต่ำ)
นวัตกรรมสูง (สามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่ไม่เคยมี)ต่ำ (จำกัดด้วยสูตรสำเร็จรูป)
เหมาะสมกับผู้ประกอบการที่ต้องการสร้างแบรนด์ที่แตกต่าง, มีงบประมาณผู้เริ่มต้น, งบจำกัด, ต้องการทดสอบตลาด, ขยายไลน์สินค้าที่เร็ว

 

การเลือก ทำแบรนด์อาหารเสริม ระหว่าง OEM และ Private Label ขึ้นอยู่กับเป้าหมายทางธุรกิจ, งบประมาณ, ระยะเวลาที่ต้องการเข้าสู่ตลาดและความต้องการในการสร้างความแตกต่างของแบรนด์ หากคุณมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนต้องการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมือนใคร และมีงบประมาณสำหรับการลงทุนในระยะยาว การเลือกแบบ OEM คือทางเลือกที่จะช่วยให้คุณสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งและมีเอกลักษณ์ในตลาด แต่ถ้าคุณต้องการเข้าสู่ตลาดอย่างรวดเร็ว, มีงบประมาณจำกัดหรือต้องการทดสอบตลาดก่อนที่จะลงทุนมากขึ้น การเลือกแบบ Private Label คือจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะช่วยให้คุณได้เรียนรู้และเติบโตในธุรกิจอาหารเสริม

ไม่ว่าจะเลือกวิธีใด สิ่งสำคัญที่สุดคือการเลือกโรงงานผู้ผลิตที่มีความน่าเชื่อถือ, มีมาตรฐานการผลิตที่ดี (เช่น GMP, HACCP), และมีประสบการณ์ในการผลิตอาหารเสริม เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ของคุณมีคุณภาพและปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค

BEYOND LABORATORY รับผลิตและทำแบรนด์อาหารเสริมรูปแบบต่างๆ อย่างครบวงจร รวมถึงรับผลิตกาแฟแบรนด์ตัวเอง ที่พร้อมดูแลทุกขั้นตอนของการสร้างแบรนด์ ด้วยมาตรฐานการผลิตระดับสากล ทั้ง GMP และ ISO พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญด้าน R&D ที่ช่วยพัฒนาสูตรอาหารเสริมให้เหมาะกับความต้องการของตลาด เราให้บริการผลิตอาหารเสริมหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ อาหารเสริมผิวขาว หรือสูตรเฉพาะอื่นๆ ผ่านกระบวนการผลิตที่ทันสมัย ปลอดภัยและได้มาตรฐาน

สนใจปรึกษา บริษัท OEM ทำแบรนด์อาหารเสริม
ติดต่อได้ที่ BEYOND LABORATORY

โทร : 063-247-8997
Line : https://line.me/ti/p/~@BeyondLab
Facebook : https://www.facebook.com/BeyondLab1/

 Facebook-icon line youtube tiktok instagram

โรงงานผลิตอาหารเสริมครบวงจร สร้างแบรนด์ที่โดดเด่นเหนือคู่แข่ง
บริษัท บียอนด์ แล็บโบราโทรี่ (ประเทศไทย) จำกัด
เป็น โรงงานผลิตอาหารเสริม ชั้นนำที่พร้อมให้บริการบริษัทผลิตอาหารเสริมของเรา ครอบคลุมการสร้างแบรนด์อาหารเสริม ครบวงจร ทำแบรนด์อาหารเสริม ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เราเชี่ยวชาญในกลุ่ม อาหารเสริมดีท็อกซ์,อาหารเสริมบำรุงสุขภาพ, อาหารเสริมลดน้ำหนัก,อาหารเสริมผิวขาวและรับผลิตคอลลาเจน พร้อมทีมงานมืออาชีพที่ช่วยวางกลยุทธ์แบรนด์ให้ตรงตามความต้องการของตลาด ด้วยมาตรฐานการผลิตระดับสากลและเครื่องจักรที่ทันสมัย Beyond Lab มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ สร้างแบรนด์ของคุณให้ประสบความสำเร็จ

บริษัท บียอนด์ แล็บโบราโทรี่(ประเทศไทย) จํากัด
555/121 บีอเวนิว วัชรพล ถนน สุขาภิบาล 5 แขวง ออเงิน
เขต สายไหม กรุงเทพฯ 10220

Line ID: @BEYONDLAB

 

ติดต่อเราวันนี้ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ Click!
 Facebook-icon line youtube tiktok instagram

https://beyondlab.co.th/wp-content/uploads/2024/12/Logo-e1719056611849.png

โรงงานผลิตอาหารเสริมครบวงจร สร้างแบรนด์ที่โดดเด่นเหนือคู่แข่ง
บริษัท บียอนด์ แล็บโบราโทรี่ (ประเทศไทย) จำกัด
เป็น โรงงานผลิตอาหารเสริม ชั้นนำที่พร้อมให้บริการ
บริษัทผลิตอาหารเสริมของเรา ครอบคลุมการสร้าง
แบรนด์อาหารเสริม
ครบวงจร ทำแบรนด์อาหารเสริม ที่มี
เอกลักษณ์เฉพาะตัว เราเชี่ยวชาญในกลุ่ม อาหารเสริม
ดีท็อกซ์,อาหารเสริมบำรุงสุขภาพ, อาหารเสริมลดน้ำหนัก,
อาหารเสริมผิวขาวและรับผลิตคอลลาเจน พร้อมทีมงาน
มืออาชีพที่ช่วยวางกลยุทธ์แบรนด์ให้ตรงตามความ
ต้องการของตลาด ด้วยมาตรฐานการผลิตระดับสากลและเครื่องจักรที่ทันสมัย Beyond Lab มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ สร้างแบรนด์ของคุณให้ประสบความสำเร็จ

BEYOND LABORATORYบริษัท บียอนด์ แล็บโบราโทรี่(ประเทศไทย) จํากัด
555/121 บีอเวนิว วัชรพล ถนน สุขาภิบาล 5 แขวง ออเงิน เขต สายไหม กรุงเทพฯ 10220
Line ID: @BEYONDLAB
Line ID: @BEYONDLAB
Line ID: @BEYONDLAB
Line ID: @BEYONDLAB
Line ID: @BEYONDLAB
Line ID: @BEYONDLAB