แนวทางการสร้างแบรนด์อาหารเสริม ต้องลงทุนเท่าไหร่ถึงสร้างแบรนด์ได้?
เทรนด์สุขภาพกำลังมาแรง ธุรกิจอาหารเสริมก็โตเอาๆ ใครๆ ก็อยากมีแบรนด์ของตัวเอง แต่พอคิดจะเริ่มก็มีคำถามเต็มหัว จะสร้างแบรนด์อาหารเสริมต้องใช้เงินเท่าไหร่? ค่าใช้จ่ายมีอะไรบ้าง? คุ้มมั้ย? ถ้าคุณกำลังสนใจอยากกระโดดเข้าวงการนี้ แต่ยังงงๆ เรื่องต้นทุน ไม่ต้องห่วง บทความนี้จะช่วยให้คุณคำนวณค่าใช้จ่ายที่ต้องเตรียม ตั้งแต่ค่าผลิต ค่าการตลาด ไปจนถึงค่าแพ็กเกจจิ้ง ให้คุณวางแผนได้แบบไม่พลาด พร้อมลุยธุรกิจนี้ได้แบบมั่นใจ
ทำไมธุรกิจอาหารเสริมถึงน่าสนใจ?
ธุรกิจอาหารเสริมเป็นอีกหนึ่งวงการที่เติบโตแบบก้าวกระโดด คนหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ทำให้สินค้ากลุ่มนี้ขายดีแบบไม่แผ่ว แต่ก่อนจะกระโดดเข้ามาทำแบรนด์ เรามาดูกันก่อนว่าอะไรที่ทำให้การสร้างแบรนด์อาหารเสริมกลายเป็นธุรกิจสุดปัง และมีเรื่องไหนที่ต้องรู้ก่อนเริ่มบ้าง
- เทรนด์สุขภาพที่มาแรง เมื่อก่อนคนมักจะมองว่า “สุขภาพดี” เป็นเรื่องของวัยกลางคนขึ้นไป แต่ตอนนี้ไม่ใช่แบบั้นอีกต่อไปแล้ว คนรุ่นใหม่เริ่มดูแลตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อย ไม่ว่าจะเป็นการกินอาหารคลีน ออกกำลังกาย หรือเสริมวิตามิน อาหารเสริมจึงกลายเป็นไอเท็มประจำวันของหลายๆ คน ไม่ใช่แค่เพื่อสุขภาพ แต่ยังรวมถึงความงาม การฟิตหุ่น และเพิ่มพลังงานให้พร้อมลุยงานอีกด้วย ซึ่งกระแสนี้ทำให้การสร้างแบรนด์อาหารเสริมเป็นตลาดที่ไม่เคยหลับใหล ใครมีไอเดียดีๆ สินค้าตอบโจทย์ ก็มีโอกาสแจ้งเกิดได้ไม่ยาก
- โอกาสเติบโตของตลาดอาหารเสริม ตลาดอาหารเสริมไม่ได้แค่โตในไทย แต่ยังบูมไปทั่วโลก รายงานการตลาดหลายแหล่งชี้ให้เห็นว่าคนหันมาซื้ออาหารเสริมกันเยอะขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม “Functional Food” หรืออาหารที่มีประโยชน์เฉพาะด้าน เช่น บำรุงสมอง เสริมภูมิคุ้มกัน หรือช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น ถ้าวางแผนดี การสร้างแบรนด์อาหารเสริมก็เป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่ทำเงินได้จริง แต่แน่นอนว่าต้องมาพร้อมกับกลยุทธ์ที่แข็งแกร่งด้วย
คำนวณต้นทุนสร้างแบรนด์อาหารเสริม ต้องเตรียมเงินเท่าไหร่?
ก่อนจะเริ่มสร้างแบรนด์อาหารเสริม คำถามที่หลายคนสงสัยที่สุดก็คือ “ต้องใช้เงินเท่าไหร่?” ความจริงคือ ไม่มีตัวเลขตายตัว เพราะขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกลงทุนแบบไหน แต่เพื่อให้เห็นภาพชัดๆ เรามาดูกันว่าค่าใช้จ่ายหลักๆ มีอะไรบ้าง และต้องเตรียมเงินเผื่อเรื่องไหนบ้าง
- ค่าผลิตสินค้า – ทำสูตรเอง vs. ใช้สูตรโรงงาน การสร้างแบรนด์อาหารเสริมมีให้เลือกสองทาง ได้แก่
- ทำสูตรเอง (วิจัยและพัฒนา – R&D) เหมาะกับคนที่อยากได้สูตรเฉพาะของตัวเอง ไม่ซ้ำใคร แต่ต้องใช้เงินเยอะ เพราะต้องมีค่าพัฒนาสูตร ค่าทดลอง และค่าแลป
- ใช้สูตรโรงงาน (OEM – รับผลิตพร้อมขาย) ประหยัดกว่าและไวกว่า เพราะเป็นสูตรที่โรงงานพัฒนามาแล้ว แค่เลือกสูตรที่เหมาะกับแบรนด์และจ้างผลิต
ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ
- ทำสูตรเอง : หลักแสน – หลักล้านบาท (ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบและความซับซ้อน)
- ใช้สูตรโรงงาน : เริ่มต้นที่หลักหมื่น – หลักแสนบาท (บางโรงงานมีขั้นต่ำหลักพันชิ้น)
Tip : ถ้าเพิ่งเริ่ม OEM อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เพราะลดความเสี่ยง และใช้ต้นทุนน้อยกว่า
- ค่าแพ็กเกจจิ้ง – กล่องสวยช่วยขายได้จริงไหม? หน้าตาของสินค้าสำคัญพอๆ กับคุณภาพข้างใน คนซื้อของจากความรู้สึก ถ้ากล่องดูดี ดูพรีเมียม ก็เพิ่มโอกาสปิดการขายได้ง่ายขึ้น ซึ่งค่าใช้จ่ายเรื่องแพ็กเกจจิ้งโดยประมาณมีดังนี้
- ขวด/กระปุก : หลักสิบ – หลักร้อยบาทต่อชิ้น
- กล่อง + ฉลาก : หลักพัน – หลักหมื่นบาทต่อการผลิตล็อตแรก
- ออกแบบแพ็กเกจ : หลักพัน – หลักหมื่นบาท
Tip : แนะนำให้ใช้แพ็กเกจที่ดูดีแต่ไม่เปลืองงบ เช่น ขวดมาตรฐาน + ฉลากสวยๆ แทนการทำแพ็กเกจพิเศษที่ต้นทุนสูง
- ค่าจดทะเบียน อย. และมาตรฐานต่างๆ “ของที่กินเข้าไปร่างกาย ต้องมีมาตรฐาน” ถ้าคิดจะสร้างแบรนด์อาหารเสริม นี่คือสิ่งที่ห้ามมองข้ามเด็ดขาด อาหารเสริมทุกตัวต้องผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) รวมถึงมาตรฐานอื่นๆ ที่ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ เช่น GMP, HACCP, ISO ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ
- จด อย. รายการละ 5,000 – 10,000 บาท
- ค่าตรวจคุณภาพสินค้า หลักหมื่นบาทขึ้นไป (ขึ้นอยู่กับประเภทของอาหารเสริม)
- ถ้าใช้โรงงานที่มีมาตรฐานอยู่แล้ว บางที่อาจรวมค่าใช้จ่ายนี้ไปแล้ว
- ค่าการตลาด – โปรโมตยังไงให้ปังไม่เปลืองงบ ของดีแต่ไม่มีคนรู้จัก = ขายไม่ได้! ดังนั้น การทำการตลาดคือเรื่องใหญ่ที่ต้องคิดตั้งแต่แรก ไม่ว่าจะเป็นยิงแอด จ้างอินฟลูฯ ทำคอนเทนต์ หรือจัดโปรโมชั่น
ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ- ยิงแอด Facebook, TikTok : เริ่มต้นที่หลักพัน – หลักแสนบาทต่อเดือน
- จ้างอินฟลูเอนเซอร์รีวิว : หลักพัน – หลักหมื่นบาทต่อโพสต์ (ขึ้นอยู่กับชื่อเสียงและผู้ติดตาม)
Tip : ถ้าทุนน้อย ให้เริ่มจากการทำคอนเทนต์ออร์แกนิกก่อน (TikTok, Reels, ไลฟ์สด) แล้วค่อยขยายงบยิงแอดเมื่อเริ่มมีรายได้
- ค่าช่องทางการขาย – ออนไลน์ vs. ออฟไลน์ สร้างแบรนด์อาหารเสริมแล้ว ต้องคิดต่อด้วยว่าอยากขายผ่านช่องทางไหน เพราะแต่ละแพลตฟอร์มมีค่าใช้จ่ายแตกต่างกัน เช่น
- ขายออนไลน์ (Shopee, Lazada, Facebook, TikTok Shop) ค่า GP (ค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์ม) 3 – 10% ต่อชิ้น
- ขายผ่านตัวแทน อาจต้องทำระบบ Dropship หรือสต็อกของเอง
- ขายออฟไลน์ (ร้านยา, ห้าง, คลินิกความงาม) มีค่าใช้จ่ายเรื่องค่าหน้าร้านหรือ GP ที่ร้านหัก
Tip : ถ้าเพิ่งเริ่ม ให้โฟกัสช่องทางออนไลน์ก่อน เพราะต้นทุนต่ำกว่าการวางขายในห้างหรือร้านค้า
ทริควางแผนงบให้ธุรกิจรอดตั้งแต่เริ่มต้น
เมื่อสร้างแบรนด์อาหารเสริม อีกหนึ่งปัญหาที่เจ้าของแบรนด์มือใหม่เจอกันเยอะมากก็คือ “ต้นทุนบานปลาย” หลายคนหมดเงินไปกับสิ่งที่ไม่จำเป็น หรือคำนวณงบผิด จนทำให้ธุรกิจไปต่อไม่ได้ ถ้าอยากให้ธุรกิจรอด ต้องรู้จักวางแผนการเงินให้ฉลาด บริหารงบให้คุ้มที่สุด วันนี้เรามี 3 ทริคง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณเซฟต้นทุน แต่ยังทำแบรนด์ออกมาได้ปังเหมือนเดิม
- ตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เวลาทำแบรนด์ใหม่ หลายคนชอบทุ่มเงินไปกับสิ่งที่ยังไม่จำเป็น เช่น
- ทำแพ็กเกจหรูเกินไป จริงๆ ใช้ขวดมาตรฐาน + ฉลากสวยๆ ก็ขายได้
- จ้างอินฟลูฯ ตัวท็อปตั้งแต่แรก ถ้างบน้อย ใช้ไมโครอินฟลูเอนเซอร์ก็ได้ผลเหมือนกัน
- สต็อกของเยอะเกินไป ควรผลิตล็อตเล็กๆ ก่อน ถ้าขายดีค่อยสั่งเพิ่ม แล้วควรลงทุนกับอะไรล่ะ? มาดูกัน
- สูตรสินค้า “ต้องดี” เพราะคุณภาพสินค้าคือจุดขาย
- การตลาด “ต้องมี” แม้งบไม่เยอะ แต่ต้องทำให้คนรู้จัก
- บริหารเงิน “ต้องรัดกุม” อย่าใช้จ่ายแบบไม่คิด เผื่องบฉุกเฉินไว้ด้วย
- วิธีสร้างแบรนด์แบบ Lean Startup Lean Startup คือการทำธุรกิจแบบ “เร็ว-ลอง-ปรับ” ช่วยให้คุณสร้างแบรนด์อาหารเสริมได้โดยไม่ต้องใช้เงินเยอะ แถมลดความเสี่ยงขาดทุนได้ด้วย
- เริ่มจาก MVP (Minimal Viable Product) ทำสินค้าออกมาให้เร็วที่สุดโดยใช้ต้นทุนน้อยที่สุด แล้วทดสอบตลาด
- ทดลองขายจริงก่อนลงทุนเยอะ เปิดพรีออเดอร์ หรือทดลองขายในกลุ่มเป้าหมายเล็กๆ ก่อน
- เก็บ Feedback แล้วค่อยพัฒนาเพิ่ม ถ้าสินค้าขายดี ค่อยปรับสูตร ทำแพ็กเกจใหม่ หรือเพิ่มไลน์สินค้า
- เคล็ดลับหาเงินทุนสำหรับเจ้าของแบรนด์มือใหม่ ปัญหาหลักของคนอยากทำแบรนด์คือเงินทุนไม่พอ แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะยังมีหลายวิธีที่ช่วยให้คุณเริ่มต้นสร้างแบรนด์อาหารเสริมได้โดยไม่ต้องใช้เงินก้อนโต เช่น
- ใช้เงินเก็บแบบมีแผน : ถ้าใช้เงินตัวเอง ให้แบ่งเป็นสัดส่วน เช่น 70% ใช้ทำธุรกิจ 30% เก็บสำรอง
- Pre-order / Dropship : เปิดให้ลูกค้าสั่งก่อน แล้วค่อยผลิต จะช่วยลดต้นทุนและความเสี่ยงไปได้เยอะ
- หานักลงทุนหรือกู้เงิน : ถ้ามั่นใจว่าสินค้าไปได้ไกล อาจมองหานักลงทุน หรือใช้สินเชื่อ SME เข้ามาช่วย
ควรเริ่มต้นไหม และทำยังไงให้ธุรกิจอยู่รอด?
การสร้างแบรนด์อาหารเสริมไม่ควรโฟกัสแค่เรื่องของเงินลงทุนเท่านั้น แต่ต้องคิดให้รอบคอบ ตั้งแต่การเลือกสูตร เลือกแพ็กเกจจิ้ง วางแผนการตลาด ไปจนถึงการบริหารเงินให้ธุรกิจอยู่รอด ที่สำคัญคือต้องเข้าใจทั้งโอกาสและความท้าทายของตลาด เตรียมพร้อมให้ดีตั้งแต่แรก โอกาสสำเร็จก็ยิ่งสูงขึ้น ถ้าอยากเริ่มต้นแบบมั่นใจ BEYOND LABORATORY พร้อมช่วยคุณทุกขั้นตอน เราคือโรงงานผลิตอาหารเสริมมาตรฐานสากล ที่ดูแลครบวงจรตั้งแต่การคิดสูตร พัฒนาผลิตภัณฑ์ ไปจนถึงการขึ้นทะเบียน อย. และการตลาด ด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปี พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญที่ช่วยให้คุณสร้างแบรนด์ได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอาหารเสริมสุขภาพ อาหารเสริมผิว หรือสูตรเฉพาะก็สามารถผลิตได้ตามงบประมาณ พร้อมมาตรฐาน GMP และ ISO ให้คุณมั่นใจได้ว่าสินค้าจะมีคุณภาพและปลอดภัย
สนใจปรึกษา สร้างแบรนด์อาหารเสริม
โทร : 063-247-8997
Line : https://line.me/ti/p/~@BeyondLab
Facebook : https://www.facebook.com/BeyondLab1/